ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นกำลังจะมาถึงในปี 2024 โดยคาดว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในปีนี้จะไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา แม้บางพื้นที่อาจจะมาช้ากว่าเล็กน้อย ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อเดินทางไปถ่ายภาพความงามของใบไม้หลากสีตามจุดชมยอดนิยมต่างๆ ทั่วประเทศ
พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2024 ตามการพยากรณ์จาก Japan Meteorological Corporation หรือ JMC ฉบับแรก (3 กันยายน 2024) คาดว่าใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากภูมิภาคเหนือสู่ใต้ ตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงธันวาคม โดยใบไม้สีเหลืองจากต้นแปะก๊วย จะปรากฏในช่วงปลายเดือนตุลาคม และใบเมเปิ้ลสีแดงสด จะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
พิกัดการชมใบไม้แดง
- ซัปโปโร วันที่ 8 พฤศจิกายน
- เซนได วันที่ 27 พฤศจิกายน
- โตเกียว วันที่ 1 ธันวาคม
- นาโกย่า วันที่ 3 ธันวาคม
- โอซาก้า วันที่ 4 ธันวาคม
- ฟุกุโอกะ วันที่ 10 ธันวาคม
พิกัดการชมใบไม้เหลือง
- ซัปโปโร วันที่ 6 พฤศจิกายน
- เซนได วันที่ 29 พฤศจิกายน
- โตเกียว วันที่ 26 พฤศจิกายน
- นาโกย่า วันที่ 19 พฤศจิกายน
- โอซาก้า วันที่ 25 พฤศจิกายน
- ฟุกุโอกะ วันที่ 28 พฤศจิกายน
สามารถติดตามพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://s.n-kishou.co.jp
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำ
1. คามิโคจิ Kamikochi
คามิโกจิ เป็นหุบเขาที่ราบสูงบนภูเขา อยู่ทางตะวันตกของจังหวัดนากาโนะ ในอุทยานชูบุ ซังกากุ (Chubu Sangaku National Park) มีทิวทัศน์สวยงาม ทั้งภูเขา แม่น้ำ และป่าไม่อุดมสมบูรณ์ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น คามิโคจิเป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคมแนวภูเขาป่าสนที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม ตัดกับแม่น้ำสีมรกตไหลผ่านกลางอุทยาน พร้อมอากาศสดชื่นเย็นสบาย จึงเป็นสถานที่ที่บรรยากาศสวยงามน่าประทับใจเหมาะกับการมาเที่ยวชมธรรมชาติและใบไม้เปลี่ยนสีอย่างมาก
2. โมมิจิ ไคโร ณ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ
โมมิจิไคโค หรือ อุโมงค์ใบเมเปิ้ล เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โด่งดังที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อยู่ในจังหวัดยามานาชิ ใกล้เมืองโตเกียว ริมทะเลสาบคาวากุจิโกะ หนึ่งในทะเลสาบห้าแห่งที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ลักษณะของสถานที่แห่งนี้เป็นทางเดินเลียบทางแม่น้ำ โดยมีต้นเมเปิ้ลปลูกเรียงรายอยู่สองข้างทาง เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายนก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม โทนอบอุ่น ร่วงหล่นปกคลุมพื้นไปทั่วบริเวณ มองแล้วเหมือนอุโมงค์ เมื่อมาที่นี่สามารถเดินชมอุโมงค์ใบเมเปิ้ลที่ทอดยาวกว่า 300 เมตรและสามารถเดินถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน
3. หุบเขาโครังเค
หุบเขาโครังเค เป็นหุบเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ตั้งอยู่ที่เมืองโทโตยะ จังหวัดไอจิ ห่างจากนาโกย่าประมาณ 40 กิโลเมตร ที่หุบเขาโครังเค มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 4,000 ต้น ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำโทโมเอะ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลางเดือนถึงเดือนตุลาคมทั่วทั้งหุบเขาใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม ละลานตาเต็มไปด้วยสีสันสวยงาม และยังมีช่วงการจัดแสดงไฟในยามค่ำคืนอีกด้วย
4. อุโมงค์แปะก๊วยมหาลัยฮอกไกโด
มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ตั้งอยู่ในตัวเมืองฮอกไกโด เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของญี่ปุ่น นอกจากมีชื่อเสียงด้านการศึกษาแล้ว บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยยังร่มรื่นสวยงามอีกด้วย และมีจุดชมใบแปะก๊วยที่สวยมากๆ กว่า 70 ต้น ทอดยาวตามแนวถนนและคล้ายกับอุโมงค์ เป็นระยะทาง 380 เมตร เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองสวยงาม ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ถนนสายนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “Ginkgo Avenue” เป็นจุดชมใบแปะก๊วยที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และยังมีการจัดแสดงไฟไลท์อัพในช่วงกลางคืนในช่วงปลายเดือนตุลาคมของทุกปีอีกด้วย
5. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
หมู่บ้านชิราคาว่าโกะ (Shirakawago) จังหวัดกิฟุ ภาคกลางของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ที่เหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีและสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคแสนอบอุ่น สถาปัตยกรรมหมู่บ้านสไตล์ “กัชโชสุคุริ” (Gasshoutsukuri) อายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน หมู่บ้านจะเปลี่ยนบรรยากาศจากสีเขียวเป็นสีส้มทั่วทั้งภูเขา วิวสวย และอากาศเย็นสบาย อีกหนึ่งไฮไลท์ไม่ควรพลาดคือจุดชมวิวเท็นชุคาคุ จะได้เห็นวิวมุมสูงทั่วทั้งหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
6. สวนสาธารณะอุเอโนะ
สวนสาธารณะอุเอโนะ เป็นสวยสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียวและเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะเก่าแก่ของญี่ปุ่น และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม วัด ศาลเจ้า สวนสัตว์อุเอะโนะ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว และศาลเจ้าอุเอะโนะโทโชกู สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกจุดที่สวยงามมากๆ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในสวนอุเอโนะคือช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นสวนสาธารณะจึงมีต้นไม้หลายสายพันธุ์ เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สีสันสวยงามสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยี่ยมชมสวนแห่งนี้
7. ปราสาทกุโจฮาจิมัง
ปราสาทกุโจฮาจิมัง ตั้งอยู่ในเมืองกุโจ จังหวัดกิฟุ ขึ้นชื่อเรื่องความงามของใบไม้เปลี่ยนสีทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ปราสาทกุโจฮาจิมัง ถูกสร้างขึ้นเมื่องปี ค.ศ.1559 ภูเขาที่ตั้งอยู่ด้านหลังของปราสาทสามารถชมวิวด้านหลังได้แบบพาโนรามา เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง ล้อมรอบประสาทสีขาวเป็นภาพที่สวยงามมากราวกับปราสาทอยู่ในเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ความสวยงามแบบนี้จะพบได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม
8. โจซังเค จังหวัดฮอกไกโด
เมืองน้ำพุร้อนที่โด่งดังของจังหวัดฮอกไกโด ตั้งอยู่ในชนบทอันงดงามของเมืองซัปโปโร ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและโรงแรมออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางวิวทิวทัศน์ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและป่าไม้สีส้มทั่วเต็มไปหมด ทิวทัศน์จึงสวยงามน่าประทับใจไม่รู้ลืม จะเริ่มเปลี่ยนในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนตุลาคม
9. เส้นทางนักปราชญ์
เส้นทางนักปราชญ์ เส้นทางเลียบคลองแม่น้ำระหว่างวัดเงินหรือวัดคินคาคุจิถึงวัดนันเซ็นจิ ตลอดเส้นทางเรียงรายไปด้วยต้นซากุระราว 500 ต้น ทำให้เป็นจุดชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิช่วงต้นเดือนเมษายนและเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงประมาณกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ตลอดเส้นทางกว่า 2 กิโลเมตร เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านขายของที่รอให้แวะพักดื่มด่ำความงดงามระหว่างเส้นทางได้ นับเป็นอีกจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเกียวโต
10. หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ
หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุชิมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจากหน้าผารูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำเป็นเวลานาน บนหน้าผาเหมือนหอคอยเมื่อมองลงมาเบื้องล่างจะเห็นแม่น้ำโอคาวะสีเขียวมรกตใสสะอาดตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านสะพานแขวนชมความงามของหน้าผาและร่องผา ในฤดูใบไม้ร่วงช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน บริเวณหน้าผาจะสวยงามไปด้วยสีสันที่ถูกแต่งแต้มจากใบไม้ที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้มเหลือง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมธรรมชาติอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและเหมาะกับการถ่ายรูปมากที่สุด ใครที่วางแผนจะเดินทางไปญี่ปุ่น แนะนำให้เตรียมกล้องและแผนการเดินทางให้พร้อม เพราะคุณจะได้พบกับทัศนียภาพที่สวยงามที่ไม่ควรพลาด