เกา สงเป็นเมืองสำคัญทางตอนใต้ของไต้หวัน ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมที่ ใหญ่ที่สุดของไต้หวันเกาสงมีทะเลที่สวยงามเป็นอย่างมาก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีจนได้ช่ือว่า เป็น “เมืองหลวงทางทะเลของไต้หวัน”
วัดฝอกวงซาน (Fo Guang Shan Buddha Museum)เป็นวัดพุทธศาสนาที่อลังการมาก ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน มีขนาดกว้างใหญ่ มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ยักษ์พร้อมกับเจดีย์ขนาดใหญ่ เรียงรายด้านหน้าอยู่ 2 ข้าง มีฉากหลังเป็นภูเขาและท้องฟ้าอันสดใส ภายในพุทธอุทยาน แบ่งออก ส่วนต่างๆมากมาย และยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวหรือฟัน ของพระพุทธเจ้าด้วยมีเจดีย์ทั้งหมด 8 เจดีย์มีวิหารหน้าขนาดใหญ่ยักษ
ศูนย์ผลิตเวชสำอาง JBM โรงงานเพาะพันธุ์เห็ดหนิวจังจือแห่งเดียวในโลก
FORMOSA BOULEVARD DOME OF LIGHT หรือเรียกอีกชื่อนึงว่า โดม แห่งแสง ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Formosa Boulevard (MRT) เป็นโดมกระจกสี กลางแจ้ง จัดแสดงงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 660 ตารางเมตร และใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปีเต็ม ประติมากรรมนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเท่านั้น แต่ยังเพิ่มมิติใหม่ให้กับชีวิตศิลปะของเมืองเกาสงด้วยนอกจากนี้ยัง ถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตมนุษย์ ผ่านแนวคิด ดิน น้า ลม ไฟ เรียงกันตามลำดับช่วงชีวิต พร้อม ข้อความที่กล่าวถึง ความรักและความอดทน ด้วยความพิเศษและความตื่นตาตื่นใจของโดมแห่งนี้ ทำให้ที่นี่ เป็นจุดถ่ายรูปและเช็คอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
ลิ่วเหอไนท์มารเ์ก็ต Liuhe Night Market ไนท์มาร์เก็ตแห่งนี้มีมาตั้งแต่ปี1950 ในตอนกลางวันที่นี่เป็นถนนปกติ แต่ในเวลากลางคืน จะเปลี่ยนโฉมเป็นย่านตลาดนัดเจริญรุ่งเรืองที่มี ร้านค้ากว่า 140 ร้าน ให้ผู้คนได้เข้ามาจับจ่ายใช้สอย ตลาดแห่งนี้มีขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของทานเล่น อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า ของสะสม เกม ไปจนถึงความบันเทิงนานาชนิด
ไถหนาน เป็นอดีตเมืองหลวงและจังหวัดที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน ที่นี่เคยเป็นอาณานิคมของชาวดัตช์ เคยถูกปกครองโดยญี่ปุ่นและเคยเป็นเมืองหลวงยาวนานถึง 225 ปี (ค.ศ. 1662-1887) ด้วยอดีตที่เคยเจริญรุ่งเรือง ทำให้เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด และเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไต้หวัน
บ้านต้นไม้อันผิง Anping Tree House ในปี 1845 หลังจากที่จีนพ่ายแพ้ ในสงครามฝิ่นครั้งที่สอง รัฐบาลได้เปิดท่าเรือ Anping ให้ชาวต่างชาติเข้ามาค้าขาย และ พ่อค้าชาวสก็อตชื่อเจมส์ไทต์ก็เป็นคนแรกๆ ที่ตั้งโกดังสินค้าในอันผิง ซึ่ง Tait & Co. Merchant House เป็นโกดังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำการส่งออก น้ำตาลทรายและการบูรจากไต้หวัน ก่อนที่สินค้าเหล่านี้จะถูกบรรทุกลงเรือ สินค้าจะถูกเก็บไว้ ในโกดังสินค้า และในช่วงยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น การค้าการบูรและฝิ่นได้กลายเป็นธุรกิจของ รัฐบาล ซึ่งทำให้พ่อค้าต่างชาติเหล่านี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกจากไต้หวัน ซึ่ง Tait & Co. Merchant House ก็ไม่มีข้อยกเว้น ในปี 1911 อาคาร Tait & Co. Merchant House ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสำนักงานและโกดังสินค้าของบริษัท Japan Salt หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารนี้ได้กลายเป็นสำนักงานของ Tainan Salt Works ในปี2004 รัฐบาลท้องถิ่นได้เชิญ นักออกแบบให้ปรับปรุงโกดังเก่าให้มีความทันสมัย
ป้อมโบราณอันผิง เป็นป้อมโบราณอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี สร้างโดยชาวฮอลแลนด์ในปี 1624 นับเป็นสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไถหนาน ในอดีตที่นี่เป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ใช้สำหรับป้องกันภัยคุกคามจากศัตรู และยังเป็นศูนย์กลางการค้าอันสำคัญของเมืองด้วย ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม อีกทั้งยังมีหอคอยชมวิวเมืองไถหนานจากมุมสูง 360 องศาด้วย
ถนนเก่าอันผิง (Anping Old Street) เป็นถนนที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวันและเคยเป็นถิ่นฐานเดิมของชาวดัตช์ที่เข้ามาอยู่บนเกาะไต้หวัน บริเวณรอบ Anping Old Fort จะมี Anping Old Street ถนนสายนี้ถือว่าเป็นถนนสายการค้าแห่งแรกของไต้หวัน จะมีถนนเล็กๆ และตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยอาคารเก่า ร้านค้าขายของที่ระลึก ของทำมือ ร้านอาหาร ร้านขนม และร้านข้าวเกรียบกุ้ง
เกา สงเป็นเมืองสำคัญทางตอนใต้ของไต้หวัน ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมที่ ใหญ่ที่สุดของไต้หวันเกาสงมีทะเลที่สวยงามเป็นอย่างมาก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีจนได้ช่ือว่า เป็น “เมืองหลวงทางทะเลของไต้หวัน”
สวนวัฒนธรรมรถไฟฮามะเซน ดัดแปลงมาจากชุมทางรถไฟเก่าที่ญี่ปุ่นเคยสร้างไว้สมัยอาณานิคม รัฐบาลของเกาสงได้ปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อให้ประชาชนใช้สำหรับพักผ่อน เป็นพื้นที่โล่งกว้าง ที่มีรางรถไฟเก่าหลายสายวางเรียงรายอยู่ และมีงานศิลปะเรียงรายเก๋ๆ เพียบ อาคารเก่า ภายในโกดังเก่ามีการจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนกันไป
22 KW2=Kaohsiung Port Warehouse No.2 จากนั้นก็เดินมาต่อที่โกดังริมทะเลสุดชิค นี่คือโกดังที่รวบรวมสินค้าตั้งแต่สมัยสงครามโลกที่ 2
ศูนย์ศิลปะแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1973 เดิมทีที่นี่เคยเป็น โกดังสำคัญของท่าเรือเกาสง ใช้เป็นสถานที่จัดเก็บสินค้าและส่งสินค้าไปยังท่าเรือต่าง ๆ แต่เมื่อเกิด การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม จึงทำให้โกดังถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ จนเมื่อปี 2000 รัฐบาลเมืองเกาสงได้ค้นหาสถานที่สำหรับจุดพลุดอกไม้ไฟวันชาติทำให้โกดังเก่าเหล่านี้ถูกค้นพบขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะ ถูกปรับปรุงจนกลายเป็นศูนย์ศิลปะที่สำคัญในเกาสง
วัดจั่วอิ๋งหยวนตี้ (Zuoying Yuandi) และศาลาเป่ยจี๋ (Beiji) เป็นศาลากลางน้ำที่ประดิษฐานรูปปั้นของเทพเจ้าเสวียนอู่ขนาดใหญ่มาก เป็นเทพเจ้าในลัทธิเต๋าที่ผู้คนให้การนับถือเป็นอย่างมาก งดงาม อลังการมากๆ ศาลามีลักษณะโดดเด่น เป็นศาลาทรงแปดเหลี่ยมและมีศาลากลางน้ำ
เจดีย์มังกรและเจดีย์เสือ หรือเรียกตามชื่อจีนว่า เจดีย์หลงหู(Longhu Pagodas, 龍虎塔) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเกาสง ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดฉือจี้(Ciji Temple) ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์สูง 7 ชั้นคู่กัน โดยจะมีรูปปั้นมังกรและเสือขนาดใหญ่เป็นทางเข้าเจดีย์ ตั้งอยู่โดดเด่น อยู่กลางริมสระบัวหรือสระเหลียนฉือถัน(Lianchitan Pond, 蓮池潭) โดยสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเซิงต้าตี้ที่เป็นเทพแห่งการรักษา เชื่อกันว่าถ้าเดินเข้าทางปากมังกรแล้วออกทางปากเสือจะเป็นการขจัดปัดเป่าเอาสิ่งไม่ดีออกจากตัว
รุ่ยเฟิงไนท์มาร์เก็ต Ruifeng Night Market ซึ่งเป็นตลาดนัดกลางคืนที่มีขนาด ใหญ่ที่สุดของเมืองเกาสง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีร้านค้าแผงลอยและรถเข็น ตั้งเรียงรายกันมากถึง1,000 ร้าน
เกา สงเป็นเมืองสำคัญทางตอนใต้ของไต้หวัน ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมที่ ใหญ่ที่สุดของไต้หวันเกาสงมีทะเลที่สวยงามเป็นอย่างมาก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีจนได้ช่ือว่า เป็น “เมืองหลวงทางทะเลของไต้หวัน”