![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2Faea318e5-cc4f-4093-9053-f9e634c9b550.jpg&w=3840&q=75)
เพียงแค่ 30 นาทีจากซัปโปโร (Sapporo) คุณจะได้พบกับเมืองโอตารุที่ตั้งอยู่ใน กิ่งจังหวัดชิเรเบชิ (Shiribeshi) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในอดีต ทั้งในด้านการค้าและคมนาคม โอตารุเคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายกับรัสเซียในช่วงศตวรรษที่ 19 ส่งผลให้เมืองนี้มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกผสมผสานกับความดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างลงตัว
![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2F8df80770-f198-4145-b2b1-9844d906f17c.jpg&w=3840&q=75)
เมื่อเดินผ่านโกดังเก่า ธนาคาร และโบสถ์ต่างๆ จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่ยังคงอยู่ในทุกมุมเมือง และนี่แหละที่ทำให้โอตารุมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครค่ะ
![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2F8c7c9b48-53b1-4b60-a3ab-f7d29f227d2d.jpg&w=3840&q=75)
ไฮไลต์ของโอตารุ
แลนด์มาร์กสำคัญที่ทุกคนต้องมาเยือนคือ คลองโอตารุ คลองสายเล็กๆ ที่เคยเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญในอดีต ปัจจุบันบริเวณนี้เต็มไปด้วยโกดังเก่าแก่ที่ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และพิพิธภัณฑ์ ทิวทัศน์ริมคลองในยามเย็นที่แสงไฟสะท้อนบนผืนน้ำถือเป็นภาพที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด ยิ่งในฤดูหนาวที่หิมะขาวโพลนปกคลุมหลังคาโกดัง บรรยากาศก็ยิ่งเหมือนหลุดเข้าไปในนิทานค่ะ
![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2F1818d20f-622d-4ee8-aeb8-e4d465568ccd.jpg&w=3840&q=75)
เสียงดนตรีกรุ๊งกริ๊งของกล่องเพลงเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของโอตารุ และที่นี่ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum) คือจุดที่ทุกคนต้องแวะ ภายในจัดแสดงกล่องดนตรีหลากหลายแบบ ตั้งแต่ดีไซน์คลาสสิกไปจนถึงดีไซน์แปลกใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีเวิร์คช็อปให้ทุกคุณได้ลองทำกล่องดนตรีในแบบของตัวเอง กลับบ้านพร้อมความทรงจำสุดพิเศษ
![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2F7b8ddaa7-a40b-443f-bfb0-b0bfdd4d2434.jpg&w=3840&q=75)
หรือหากใครที่ชื่นชอบและหลงหลงใหลในงานฝีมือที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ร้านคิตะอิจิ กลาส คือต้องแวะให้ได้ ที่นี่มีของตกแต่งจากกระจกสีสันสดใส เช่น โคมไฟ เครื่องประดับ และของที่ระลึกน่ารักๆ ให้เลือกซื้อกลับบ้าน บรรยากาศภายในร้านชวนให้นึกถึงยุคเก่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบงานวินเทจสุดๆ ค่ะ
![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2F1c0b04c1-cbdb-464c-bd5a-ce79f3790a9c.jpg&w=3840&q=75)
ไม่ว่าจะมาเที่ยวโอตารุในฤดูไหน คุณก็จะได้พบกับเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ปลายกันยายน - พฤศจิกายน): ใบไม้สีแดง ส้ม และเหลือง เติมเต็มความอบอุ่นให้กับเมือง
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์): หิมะขาวโพลนและเทศกาลประดับไฟริมคลอง สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกเหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม): ความสดใสของดอกไม้บานสะพรั่งทำให้เมืองมีชีวิตชีวาขึ้น
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการเดินเล่นริมคลองและเพลิดเพลินกับวิวสวยๆ
![](/_next/image?url=https%3A%2F%2Ffile-service.lnwtiao.com%2Ff%2Fs3%2F56fe4b28-103f-4084-afc7-1bc6aa5b5739.jpg&w=3840&q=75)
การเดินทางจากซัปโปโรไปโอตารุสะดวกมากๆ รถไฟ JR นั่งสาย Hakodate Main Line จากสถานี Sapporo ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคาประมาณ 750 เยน หรือรถบัส มีบริการรถบัสระหว่างซัปโปโรและโอตารุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
โอตารุ ไม่ได้เป็นเพียงเมืองท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก วัฒนธรรม และเรื่องราวในอดีตที่ยังคงมีชีวิต ยิ่งได้เดินริมคลอง ฟังเสียงกล่องดนตรี พร้อมชมวิวสวยๆ ยิ่งเหมือนหลุดเข้าไปในนิทาน ถ้ามีโอกาสมาเที่ยว ฮอกไกโด อย่าลืมแวะมาสัมผัสมนตร์เสน่ห์ของเมืองน่ารักแห่งนี้ให้ได้นะคะ